จำเป็นไหมที่ต้องใส่พระ
คำถามข้อนี้นับเป็นคำถามที่เกิดขึ้นกับคนยุคใหม่พอสมควรเลยทีเดียว โดยคำตอบเรื่องนี้จุดสำคัญอยู่ที่ตัวผู้ถามนั่นเอง ดังที่ทราบกันว่า พลังงานแห่งพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์นั้น เป็นพลังงานสูงสุดที่แผ่ไปได้อย่างไม่มีประมาณ ถ้าจิตของคุณถึงพระจริงๆ ใจคุณมีบุญกุศล มีศีล มีธรรมอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าอยู่ที่ใด พลังงานแห่งพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์นั้น ก็แผ่ไปถึงคุณได้เสมอ ไม่ต้องห้อยพระ หรือบูชาพระก็ได้ แต่คำถามสำคัญว่า จิตของคุณ ถึงพระจริงๆแล้วหรือยัง ??
แม้แต่ครูบาอาจารย์ที่ท่านสำเร็จธรรมชั้นสูง ท่านก็กราบไหว้และบูชาพระทั้งสิ้น
อย่าลืมไปว่าแม้แต่ครูบาอาจารย์ที่ท่านสำเร็จธรรมชั้นสูง ท่านเองก็กราบไหว้บูชาพระทั้งสิ้น โดยมีพระบูชาอยู่ในห้องอยู่บนกุฏิ ท่านกราบด้วยความสนิทใจ พระท่านรู้ดีว่านั่นคือตัวแทนของพระพุทธเจ้าที่ท่านเคารพทั้งหัวใจ อีกทั้งการกราบไหว้บูชานั้นยังเป็นกุศโลบายอันชาญฉลาดที่ท่านทำเป็นแบบอย่าง ให้คนรุ่นหลังได้รู้ว่า เราต้องเคารพพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จิตต้องถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ปฏิบัติตามต่อไป

พระเครื่อง คือวัตถุมงคลที่ย่อขนาดมาจากพระพุทธรูป เพื่อให้สะดวกในการพกพาติดตัวไว้บูชา ถ้าถามว่าเราไม่ไหว้พระแล้วจะนึกถึงพระออกไหม ถามว่าถ้าเราไม่ห้อยพระเกิดความชั่วร้ายขึ้นมาในจิตใจ จะมีอะไรเป็นเครื่องเตือนสติให้เราไม่ทำความชั่วบ้างไหม ?? บางคนคล้องพระอยู่ คิดจะกินเหล้าก็ฉุกคิดได้ว่า เฮ้ย .. หลวงพ่อห้ามไว้ !! ไม่กินดีกว่าเป็นต้น นี่คือจุดสำคัญ
การห้อยพระ บูชาพระ คือสิ่งที่เป็นรูปธรรม
รูปธรรมนั้นยังไงก็เห็นได้ง่ายกว่า ศรัทธาเชื่อมั่นได้ง่ายกว่า จับต้องได้ง่ายกว่า เพราะฉะนั้น การห้อยพระ จุดสำคัญที่แท้จริงไม่ใช่เรื่องของพุทธคุณ แต่เป็นเรื่องของการเกิดสติ เป็นพุทธานุสสติ ธัมมานุสสติ สังฆานุสติ ให้ระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ให้คุณอายที่จะทำความชั่ว กล้าที่จะทำความดี เป็นกุศโลบายโน้มน้าวให้คุณได้มีโอกาสไปทำบุญสร้างกุศล ไปวัดเช่าพระ ได้ทำทาน ได้ทั้งฟังธรรมจากครูบาอาจารย์ ได้ทั้งอนุโมทนาบุญผู้อื่น ได้สมาทานรักษาศีล กลับบ้านมาก็เอามาสวดมนต์ไหว้พระตามที่หลวงปู่ครูบาอาจารย์บอก ก็ได้ทั้งการปฏิบัติธรรมเพิ่มอีก ห้อยพระอย่างเดียวจึงได้บุญครบทุกประการ นับตั้งแต่ทาน ศีล ภาวนา จิตของคุณอยู่กับบุญกุศลคือ “พระ” ตลอดเวลา การคิด การทำ การพูด ในเรื่องที่เป็นบาปและอกุศลกรรมต่างๆ ก็ย่อมเบาบางลงไป

คนเราไม่รู้ว่าจะตายเมื่อไหร่ บางคนนอนหลับก็ไม่หายใจตายไปเฉยๆ บางคนจะไปซื้อของมากินยังไม่ทันได้กินโดนรถชนตายก็มี บางคนคิดงานโปรเจคใหม่ๆ กะว่าขายได้กำไรรวยแน่ๆ แต่ดีใจจนหัวใจวายตายไปเสียก่อนก็มี
เมื่อตายไปแล้วถ้าจิตไม่เคยนึกถึงพระ ไม่เคยทำบุญกุศลใดๆเลย ใครจะช่วยคุณได้ คุณก็ย่อมจะมีแต่ตกลงไปสู่ภพภูมิที่ต่ำไปเรื่อยๆ แต่ถ้าอย่างน้อยคุณมีพระอยู่ในบ้านตื่นนอนมาก็กราบท่าน บอกท่านว่าหลวงปู่ผมไปนะครับ จะไปทำงานเอาพระคล้องคอแล้วบอกหลวงปู่ผมไปทำงานแล้วครับ ช่วยผมขายของดีๆด้วยนะครับ ตอนดึกจะนอนก็กราบหมอนคิดถึงท่าน หลวงปู่ผมนอนแล้วนะครับ ขอให้หลวงปู่คุ้มครองให้ผมนอนหลับฝันดี จิตของคุณก็จะนึกถึงพระอยู่เสมอ จิตที่เป็นบุญกุศลอยู่กับเราตลอดเวลา หากเป็นอะไรไปในช่วงใดก็ตาม พระนั้นจะอยู่ในใจคุณ พลังแห่งพระทำให้บุญกุศลที่คุณได้เคยทำ เคยนึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ นั้น จะส่งให้คุณไปสู่สุขคติ
หรือแม้แต่คุณไม่เป็นอะไรเลย กำลังแห่งบุญกุศลที่คุณได้เห็นพระอยู่เสมอนั้น ก็ย่อมช่วยฟอกจิตใจของคุณให้บริสุทธิ์ สะอาด สบายใจ คนที่ไหว้พระอยู่ทุกวัน รับประกันได้ว่าความโกรธจะน้อยลง เห็นหน้าหลวงพ่อนั่งยิ้มอยู่ทุกวัน จะไปตีใครด่าใครก็นึกถึงพระก่อน มันจะคิดกลัวในใจว่าไม่อยากจะทำ นึกว่าเมื่อเช้าเราเพิ่งไหว้พระมา ถ้าจะไปด่าคนมันจะไม่ดีอะไรอย่างนี้ มันจะทำให้อารมณ์บรรเทาเบาบางลงไปได้

→ ดูวิธี การเลือกพระเครื่องมาบูชา
เพราะฉะนั้นถ้าเอากันจริงๆแล้ว การสร้างพระเครื่อง พระบูชานั้น เป็นกุศโลบายธรรมชั้นสูงของโบราณอาจารย์ที่จะช่วยดึงโน้มจิตของคนที่อยู่กับพระ ให้อยู่กับบุญกุศลนั้นได้มากขึ้น เมื่อผู้ใช้พระอยู่กับพระไปเรื่อยๆ เขาก็จะเข้าถึงพระอย่างแท้จริงได้ สักวันหนึ่งจากคนใช้พระอาจมากลายเป็นพระเสียเอง ไม่ต้องไปกราบไหว้พระที่ไหนในที่สุด
ในความเป็นจริงแล้ว ยิ่งคนที่เข้าถึงพระมากเท่าไหร่ ยิ่งกราบไหว้พระมากขึ้นด้วยความเคารพอย่างสนิทแนบแน่นใจถวายชีวิต เพราะเขาได้เห็นคุณประโยชน์จากการกราบไหว้พระ บูชาพระแล้วว่า บุญกุศลนั้นช่วยให้เขาละความทุกข์ได้จริง เพิ่มความสุขได้จริง สิ่งที่พระพุทธองค์สอนเป็นสัจธรรมของจริงแท้ มีค่ามากกว่าเงินร้อยล้านพันล้านที่ให้ความสุขใจแท้จริงกับใครไม่ได้ ตายแล้วก็ไม่ได้ติดตัวไป แต่บุญกุศลจะติดตัวไปทุกชาติภพ ตราบจนเข้าถึงที่สุดคือ พระนิพพาน

เพราะฉะนั้นถ้าถามว่าไม่ห้อยพระจะได้ไหม ไม่ไหว้พระได้หรือเปล่า คงต้องย้อนถามว่าจิตเราถึงพระจริงๆแล้วหรือยัง จึงจะทำเช่นนั้นได้ เพราะขนาดพระอรหันต์ที่จิตของท่านถึงพระอย่างแท้จริงแล้ว ยังกราบไหว้บูชาพระด้วยความเคารพบูชาอย่างเปี่ยมล้นเต็มหัวใจ ท่านยังสร้างพระเครื่อง พระบูชาให้เราได้กราบไหว้อยู่เสมอ แล้วเรามีจิตดีขนาดไหนถึงจะไม่กราบไหว้บูชา และระลึกถึงคุณพระ
ดังนั้นถ้าผู้ใดคิดว่าจิตถึงพระแล้ว พระท่านประทับอยู่ในใจแล้ว ไม่ต้องห้อยพระก็ได้ แต่สำหรับใครที่ยังห่างไกลจากจุดนี้ก็อยู่ที่จะพิจารณาตามความเหมาะสม
ขอบคุณข้อมูล
– ดร.รอบทิศ ไวยสุศรี แฟนพันธุ์แท้พระเกจิคณาจารย์ ปี 2006
– หนังสือตอบโจทย์พระเครื่อง รู้เรื่องของขลัง ของสำนักพิมพ์ ND Publishing
หากข้อมูลนี้มีความผิดพลาดประการใดหรือละเมิดต่อสิทธิของท่าน โปรดแจ้งมาที่ phopprashop@gmail.com